คล็อปป์ โวย พรีเมียร์ลีกมี VAR ไว้ทำหลังทีมไม่ได้จุดโทษ
เจอร์เก้น คล็อปป์ โว้ยหลังทีมไม่ได้จุดโทษในเกมส์เมื่อคืน หลัง มาติป โดนดึงล้มคาเขตโทษ
เกิดดราม่าหลังเกมส์ พรีเมียร์ลีก นัดที่ 5 ที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเจอกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งเกมส์นี้ ทีมเยือนออกนำตั้งแต่ช่วงต้นเกมส์จากลูกยิงสุดสวยของ เยโทร วิลเล่มส์ แต่หลังจากนั้นเจ้าบ้านก็ตั้งเกมส์รุกได้และโหมบุกอย่างหนัก และก็ได้ลูกตีเสมอจาก ซาดิโอ มาเน่ แต่ก่อนหน้านั้นก็เกิดจังหวะที่มีปัญหาในนาทีที่ 27 เมื่อ โณแอล มาติป โดน จามาล ลาสเซลลส์ กัปตันของทีม นิคาสเซิ่ล เหนื่ยวในเขตโทษจากจังหวะการบุกของ ลิเวอร์พูล ด้วยลูกเตะมุม ทำให้ มาติป ที่รอโหม่งอยู่ล้มลงในกรอบเขตโทษ ซึ่งเป็นจังหวะที่น่าจะได้จุดโทษ จิงๆ แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้เป่าอะไรให้ หงส์แดง แม้กระทั้งจะหยุดดู VAR ยังไม่มี ทำให้ คล็อปป์ โมโหและโวยผู้ตัดสินอย่างหนัก
และหลังที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ โว้ยผู้ตัดสินที่ 4 ก็บอกว่าได้ดู VAR แล้วแต่ไม่เป็นจุดโทษ จึงทำให้ลิเวอร์พูล เสียประโยชน์ตรงนี้ไปเต็มๆ โดยหลังจากจบเกมส์ที่ ลิเวอร์พูล กลับมาชนะได้ 3-1 คล็อปป์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า “ผมรู้สึกสงสัยมากในจังหวะนี้ทีมของผมควรจะได้ลูกจุดโทษ จากการที่ลูกทีมของผมโดนดึงคอขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ได้จุดโทษทั้งๆ ที่ ผู้ตัดสินก็ใช้ VAR แล้ว ซึ่งจากความคิดของผมยังไงมันก็ต้องเป็นลูกฟาวล์ อย่างแน่นอน”
และอีกประเด็นสำคัญในเกมส์นี้ก็คือ ความสัมพันธ์ ระหว่าง ซาดิโอ มาเน่ กับ โมซาลาห์ ที่ก่อนเกมส์ได้มีปัญหายืดเยื้อมาตั้งแต่เกมส์ลีกในก่อนพักเบรกทีมชาติ ซึ่งหลังจากจบเกมส์ มาเน่ ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า “ผมได้ลืมเรื่องของ ซาลาห์ ออกไปจากหัวจนหมดแล้ว ผมคุยกันเรียบร้อยและตอนนี้เราก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไม่มีอะไรต้องคาใจกันอีกแล้ว” หลังจาก มาเน่ ออกมาเปิดใจแล้วทำให้แฟนบอลของลิเวอร์พูลหลายคนคงสบายใจมากขึ้น