คล็อปป์ ออกโรงชม อลีสซง ในเกมส์ชิงแชมป์สโมสรโลก
คล็อปป์ ออกโรงชม อลีสซง ผู้รักษาประตูชาวบราซิล เป็นส่วนสำคัญพาทีมชนะ มอนเตร์เรย์ 2-1
เจ้อร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของลิเวอร์พูลสโมสรยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษออกโรงชม อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งชาวบราซิล ที่สามารถช่วยทีมได้เยอะมากๆ ในเกมส์ชิงแชมป์สโมสรโลกที่กาตาร์นัดแรกที่เจอกับ มอนเตร์เรย์ ยอดทีมจากประเทศเม็กซิโก เมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยรูปเกมส์เมื่อคืนผิดคาดจากที่หลายๆ คนคิดเอาไว้หลัง มอนเตร์เรย์ เป็นฝ่ายบุกใส่ลิเวอร์พูลทั้งเกมส์แต่ในเกมส์นี้ ลิเวอร์พูล ได้ประตูไปก่อนจาก นาบี เกอิต้า จากการหลุดเข้าไปยิงแบบโล่งๆ ให้ลิเวอร์พูลออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 12 แต่ก็ไม่ไช่น่าเชื่อเพราะหลังจากได้ประตูได้แค่เพียง 2 นาทีลิเวอร์พูลกลับโดนตีเสมอจากการยิงของ โรเจลิโอ ฟูเนส โมรี่ ทำให้จบครึ่งแรกด้วยผลเสมอกัน 1-1 และในครึ่งก็ไม่สามารถทำอะไรได้ทำให้รูปเกมส์แลดูแล้วจะจบด้วยผลเสมอกัน 1-1 แต่คล็อปป์กลับแก้เกมส์ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงสนามมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 85 และกลายเป็นฮีโร่ช่วยทำประตูชัยได้ในนาทีที่ 90+1 ทำให้ลิเวอร์พูลพลิกชนะได้แบบน่าเหลือเชื่อผ่านเข้ารอบไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ และต้องเจอกับ ฟลาเมงโก้ ยอดทีมจากประเทศอเมริกาและยังเป็นถึง แชมป์ โกปาลิเบอร์ตาดอเรส โดยโปรแกรมนัดชิงชนะเลิศจะลงเตะกันในวันที่ 21 ธันวาคมนี้
ตัดเกรดนักเตะ ลิเวอร์พูล ชนะ มอนเตร์เย์ เมื่อคืน
– อลีสซง เบ็คเกอร์ : 8
แม้ไม่ใช่คนซัดประตูชัย แต่นายทวารรูปหล่อเลือดแซมบ้ามีส่วนสำคัญอย่างมากต่อชัยชนะครั้งนี้ เพราะนอกจากออกแรงเซฟหลายครั้งแล้ว ยังทำได้ยอดเยี่ยมในการออกมาตัดบอลด้วย
– เจมส์ มิลเนอร์ : 6.5
ฉลองการลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ครบ 200 นัด ในตำแหน่งแบ็กขวา ซึ่งก็ช่วยเกมรับได้ดีในบางจังหวะ แม้อาจจะมีข้อจำกัดในการเติมเกมรุก แต่ก็เกือบมีแอสซิสต์ในจังหวะที่เปิดให้ โอริกี้ ยิงหลุดกรอบช่วงครึ่งหลัง
– โจ โกเมซ : 5
ทีมได้ชัยชนะก็จริง แต่ฟอร์มของ โกเมซ ในเกมนี้ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะนอกจากคุมแนวรับหลวมแล้ว ยังมีจังหวะผิดพลาดง่ายๆ หลายครั้ง รวมถึงการทำแฮนด์บอลจนได้ใบเหลือง
– จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 6
ต้องลงเล่นในตำแหน่งของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ซึ่งทำได้ดีในการผ่านบอล รวมถึงความนิ่ง แต่เรื่องการคุมแนวรับและการยืนตำแหน่งถือว่าไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
– แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 6
ไม่ใช่เกมที่ดีที่สุดของ “ร็อบโบ้” แม้มีความขยันในการเล่น แต่เกมรับมีหลวมในหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะที่ปล่อยให้ โรเจลิโอ ฟูเนส โมรี่ ยิงประตูตีเสมอโล่งๆ
– อดัม ลัลลานา : 6
ครึ่งแรกทำได้ดีในการครองบอล แต่เริ่มแสดงให้เห็นถึงความล้าในครึ่งหลัง จนช่วยต้านเกมรุกของทีมคู่แข่งไม่ค่อยอยู่
– นาบี เกอิต้า : 7.5
ฟอร์มดีต่อเนื่อง มีทีเด็ดในการสอดขึ้นไปลุ้นทำประตู และเกมนี้ก็ทำได้ 1 ตุง แถมได้ลุ้นอีกหนึ่งครั้งด้วย ถือเป็นเกมที่เจ้าตัวมีส่วนร่วมเยอะมาก
– อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน : 6.5
ค่อนข้างเงียบในครึ่งแรก แต่ก็ทำได้ดีขึ้นในครึ่งหลัง และมีส่วนกับการเล่นเกมรุกหลายครั้ง
– เซอร์ดาน ชากิรี่ : 5
เป็นเกมที่น่าผิดหวังสำหรับดาวเตะเลือดสวิส มีส่วนร่วมกับเกมน้อยมาก ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อรูปเกม จน เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกส่ง มาเน่ ลงไปแทนช่วงครึ่งหลัง
– โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 7.5
อาจไม่ใช่เกมที่โดดเด่นมาก แต่ทำได้ดีในจังหวะสำคัญๆ โดยเป็นคนแอสซิสต์สุดเหนือชั้นให้ เกอิต้า กดประตูขึ้นนำ 1-0 จากนั้นก็มีส่วนกับประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
– ดีว็อค โอริกี้ : 5
ได้บอลเยอะมาก แต่ไม่ค่อยมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมเก็บบอลไว้กับตัวมากเกินไปในหลายจังหวะ ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกท้ายเกม
– ซาดิโอ มาเน่ (แทน ชากิรี่ น. 68) : 6
สร้างอันตรายให้แนวรับทีมคู่แข่งได้บ้าง และมีโอกาสได้ทดสอบนายทวาร มอนเตร์เรย์ ด้วยลูกยิงนอกเขตโทษ
– เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (แทน มิลเนอร์ น. 74) : 7
ทำได้ตามที่ได้รับมอบหมายในการครอสบอลจากด้านข้าง ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดบอลได้ฉลาดและเฉียบคมสุดๆ ในจังหวะแอสซิสต์ให้ ฟีร์มีโน่ ยิงประตูชัย
– โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (แทน โอริกี้ น. 85) : 7
อยู่ในสนามได้ไม่กี่นาทีก็มีผลทันที โดยเป็นคนยิงประตูชัยให้ทีมช่วงทดเจ็บ ด้วยการเข้าชาร์จลูกเปิดสุดคมของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์