เจาะลึก บิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์ ลิเวอร์พูล เจอ เลสเตอร์ ซิตี้
เปิดประเด็นสำคัญก่อน ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับ เลสเตอร์ ซิตี้
ต้องยอมรับว่าเป็น 2 ทีมที่ทำผลงานได้ดีมากในฤดูกาลนี้ ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล อยู่อันดับ 1 ของตาราง พรีเมียร์ลีก มี 21 แต้มจากการชนะรวด 7 รวด ส่วนฝั่งทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่อันดับที่ 3 ลงเล่น 7 เกมส์มี 14 คะแนนถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากที่ เลสเตอร์ ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก จากการคุมทีมของ แบนเนอร์ ร็อดเจอร์ส อดีตกุนซือของ ลิเวอร์พูล ในเกมส์วันนี้ ลิเวอร์พูล ต้องการ 3 แต้มเพื่อทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะลงเตะในวันพรุ้งนี้แต่รับรองได้เลยว่าไม่ไช่เกมส์ง่ายสำหรับ ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน จะพาไปดูประเด็นที่น่าสนใจก่อนเกมส์
1.แบนเนอร์ ร็อดเจอร์ส กลับ แอนฟิลด์ แมตช์นี้จะเป็นครั้งแรกที่ แบนเนอร์ ร็อดเจอร์ส ได้กลับมาเยือนถิ่นแอนฟิลด์ นับตั้งแต่ที่เขาโดนปลดเมื่อ ตุลาคม 2015 ซึ่งคนที่เข้ามาคุมทีมต่อจาก ร็อดเจอร์ส ก็คือ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ หงส์แดง ชุดปัจจุบัน แต่การกลับมาครั้งนี้จะเป็นการกลับมาที่มาพร้อมกับความตั้งใจที่จะมอบความพ่ายแพ้ครั้งแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ และร็อดเจอร์ส คงจะเปิดเกมส์รุกเต็มสูบจะทำให้ความสนุกของเกมส์นี้อยู่ในระดับ 10/10 เลยเพราะยังไง ลิเวอร์พูลเล่นในบ้านก็ต้องบุกเหมือนกันเพื่อต้องการ 3 แต้มเพราะหลังจากนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องเจอโปรแกรมสุดโหดตลอดทั้งเดือน ตุลาคม
2.มาเน่ ปะทะ วาร์ดี้ ปัจจุบันหลังจากผ่านไป 7 เกมส์ มาเน่ซัดประตูให้กับ ลิเวอร์พูลไปแล้ว 4 ประตูในลีก และต้องการอีก 1 ประตูเพื่อที่จะทำสถิติทำครบ 50 ประตูในพรีเมียร์ลีก จากการลงเล่นครบ 100 เกมส์ สำหรับ วาร์ดี้ ฟอร์มในซีซั่นนี้กำลังร้องแรง โดยในช่วงต้นซีซั่น วาร์ดี้ ยิงประตูไปแล้ว 5 ประตู และ วาร์ดี้ มักจะเล่นได้ดีเวลาเจอกับ ลิเวอร์พูล และยังยิงใส่ ลิเวอร์พูลไปแล้ว 7 ลูกและมีเพียง แอนดี้ โคล กับ เธียร์รี่ อองรี ที่สามารถยิงใส่ลิเวอร์พูลได้มากกว่า วาร์ดี้ ซึ่งค่าเฉลี่ยการยิงประตูทุกๆ 126 นาที เป็นตัวเลขที่เหนือกว่า มาเน่ และมีเพียงแค่ เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงคนเดียว ที่มีค่าเฉลี่ยการยิงใส่ทีมใหญ่มากกว่า วาร์ดี้ เพียงคนเดียว
3.โกเมซ จับคู่ ฟานไดค์ หลังจากที่ โฌแอล มาติป ได้รับอาการบาทเจ็บและไม่ได้ลงเล่นในเกมส์กลางสัปดาห์ส่งผลให้เห็นแล้วว่าเกมส์รับแลดูมีปัญหาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากการที่นำ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ไปก่อนถึง 3-0 แต่ก็โดนตีเสมอ 3-3 ก่อนจะกลับมาชนะ 4-3 ซึ่งเป็นสกอร์ที่กุนซืออย่าง คล็อปป์ ไม่พอใจอย่างแน่นอนจากเกมส์ที่ง่ายกลายเป็นเกมส์ที่ยากลำบาก ซึ่งต้องรอดูว่าในเกมส์นี้ ฟาน ไดค์ จะทำผลงานได้ดีเหมือนทุกนัดและช่วยกระตุ้นให้ โกเมซ ทำผลงานได้ดีแค่ไหน เพราะ กองหน้าของ เลสเตอร์ เป็น วาร์ดี้ ที่มีความเร็วจึงอาจจะยากในการรับมือ