สุดยอดตำนาน เทพบุตรเปียทองคำ โรแบร์โต บักโจ้
เทพบุตรเปียทองคำ โรแบร์โต บาจโจ้ สุดยอดตำนานแห่งวงการฟุตบอล อิตาลี
โรแบร์โต้ บักโจ้ ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1967 ที่เมือง วิเซนซ่า ใน อิตาลี บักโจ้ได้เริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งครั้งแรกในวัยแค่ 16 ปีให้กับสโมสรวิเซนซ่าในบ้านเกิดในปี 1982 ซึ่งตอนนั้นวิเซนซ่าเป็นแค่ทีมในระดับ 3 ของอิตาลีหรือ เซเรีย ซี และทำผลงานได้โดดเด่นมากจนทำให้ได้รับความสนใจจากสโมสร ใหญ่ในลีกสูงสุดของ อิตาลี ก่อนจะเป็น ฟิออเรนติน่า ที่ได้ตัว บักโจ้ มาร่วมทีมและได้ลงเล่นในลีกสูงสุดด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปี และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างมากและเป็นที่รักของแฟนบอลฟลอเรนซ์ อย่างมาก ถึงขั้นพูดว่า บักโจ้ เปรียบเหมือนพระเจ้าเลยทีเดียว
ก่อนในปี 1990 ยูเวนตุสจะเห็นความสามารถและถูกใจผลงานในฟุตบอลโลกในปี 1990 และได้ทุ่มเงินถึง 19 ล้านเหรียญ ให้ ฟิออเรนติน่า เพื่อขอซื้อตัว บักโจ้ มาร่วมทีม ซึ่งการย้ายทีมในครั้งนี้ทำให้แฟนบอลของ ฟิออ แสดงความไม่พอใจและออกมาประท้วงสโมสรที่ขายนักคนนี้ออกไป ในปี 1993 บักโจ้ สามารถพา ยูเวนตุส คว้าแชมป์ ยูฟ่ามาครองได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในนัดชิง และยังเป็นปีทองของ บักโจ้ ที่สามารถคว้ารางรัลส่วนตัวได้อย่างมากมาย เช่น ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของฟีฟ่า, รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของนิตยสารเวิล์ด ซอคเกอร์, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีนิตยสารอ๊งซ์ มงดิอัล, ผู้เล่นยอดเยี่ยมนิตยสารฟร๊องซ์ ฟุตบอล บัลลงดอร์ และอีกมากมาย ในปี 1993 และยังสามารถพา ยูเวนตุส คว้าแชมป์ ลีก สคูเด็ตโต้กับยูเวนตุสครั้งแรกได้ในปี 1995 และยังเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ฟิออ ก่อนจะทำเรื่องที่ไม่คาดคิดโดยการปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่กับ ยูเวนตุส และย้ายไปร่วมทีมกับคู่แข่ง อย่าง เอซีมิลาน และย้ายมาก็สามารถช่วยให้ เอซีมิลาน คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้มาครองได้ในปี 1996 โดยตอนนั้นเค้าเป็นคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ 2 ปีติดกับ 2 สโมสร และในปี 1997 บักโจ้ จะย้ายมาร่วมทีม โบโลญญ่า และทำผลงานได้ดีเหมือนเดิมด้วยการทำได้ถึง 22 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 30 เกมส์ และด้วยฟอร์มที่ยังร้อนแรงและไม่ตกของเค้า ทำให้ เซเซเร่ มิลดินี่ เรียกตัวเข้าติดทีมชาติไปลุยฟุตบอลโลกในปี 1998 และหลังจบฟุตบอลโลก บักโจ้ ได้ย้ายทีมไปร่วมกับ อินเตอร์ มิลาน แต่การเล่นให้ อินเตอร์ บักโจ้ กลับไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่นัก
และในปี 2000 บักโจ้ ก็ย้ายทีมอีกครั้ง โดยย้ายจาก อินเตอร์ ไปเล่นให้กับสโมสร เบรสชา และกลับมาระเบิดฟอร์มโหดได้อีกครั้งด้วยผลงานลงเล่นไปทั้งหมด 95 เกมส์ และทำได้ถึง 45 ประตู และในปี 2002 ก็มีเสียงเรียกร้องให้เค้ากลับไปติดทีมชาติอีกครั้งเพื่อไปลุยฟุตบอลโลกที่ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพร่วมกัน แต่กลับไปได้แค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายหลังแพ้ให้เจ้าภาพเกาหลีใต้ในช่วง ต่อเวลา ก่อนจะกลับมาเล่นให้สโมสร และในปี 2004 บักโจ้ จะลงเล่นครั้งสุดท้ายในอาชีพ ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2004 ในนัดที่ เบรสชาต้องออกไปเยือน เอซี มิลาน โดยในเกมส์นั้น บักโจ้ เล่นไป 88 นาทีก่อนี่จะถูกเปลี่ยนตัวออก โดยแฟนบอลในสนามกว่า 80,000 คน พากันลุกและยืนปรบมือให้กับเค้าในขณะที่เดินออกจากสนาม
ส่วนประวัติการเล่นให้กับทีมชาติ บักโจ้ เล่นให้ทีมชาติครั้งแรกในปี 1900 โดยฟุตบอลครั้งแรกทำได้ 2 ประตู โดยเกมส์ ยิงให้ อิตาลีนำ สโลวาเกีย 2-0 และอีกลูกเกิดขึ้นในเกมส์ชิงที่ 3 โดยเป็นเกมส์ที่พบกับอังกฤษ โดย บักโจ้ ยิงให้ อิตาลีนำ 1-0 และอิตาลีชนะไป 2-1 และก็ติดทีมชาติมาโดยตลอด และครั้งสุดท้ายที่ติดทีมชาติคือในปี 2002 ที่ เกาหลีใต้และญี่ปุ่ญเป็นเจ้าภาพ