คล็อปป์ ยอมรับจากใจชูร์วสบิวรี่แกร่งจริง โชคดีที่ไม่แพ้
เจอร์เก้น คล็อปป์ ออกมายอมกับผลการแข่งขันพร้อมชื่นชม ชูร์วสบิวรี่
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือคนเก่งของสโมสรลิเวอร์พูล ยอมรับกับผลการแข่งขัน เอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อคืนที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ชูร์วสบิวรี่ 2-2 พร้อมยอมรับว่าสโมสรชูร์วสบิวรี่ เล่นได้ดีจริงๆ และโชคดีมากที่สโมสรลิเวอร์พูลไม่แพ้แม้ในเกมส์นี้ หงส์แดง จะได้ประตูนำไปก่อนถึง 0-2 แต่กลับโดนตีเสมอในช่วงครึ่งหลัง
เกมส์นี้ คล็อปป์ ได้ส่งผู้เล่นชุดเด็กผสมกับตัวจริง ดูเหมือนว่าเกมส์นี้จ่าฝูงไร้พ่ายของพรีเมียร์ลีกอังกฤษจะเจองานง่ายและมีโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบ 5 ได้อย่างไม่ง่ายเพราะหงส์แดงได้ประตูนำไปถึง 0-2 แต่อย่างไรก็ตาม ชูร์วสบิวรี่ กลับไม่ยอมแพ้และฮึดและรวมพลังจนสามารถยิงรัวสองประตูคืนตีเสมอได้ 2-2 แต่หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่สามรถยิงประตูเพิ่มได้ ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ต้องกลับไปเล่นอีกรอบที่สนาม แอนฟิลด์
คล็อปป์ ได้เปิดใจว่า “ลิเวอร์พูลนั้นโชคดีมากๆ ที่ไม่แพ้ในเกมส์นี้ มันยากลำบากมากๆ ที่จะเอาชนะในเกมส์นี้ เราไม่มีเวลามากพอที่จะพูดหลายๆ อย่างได้หมดซึ่งแน่นอนว่ามีเรื่องไม่ค่อยเหมาะสมในเกมส์วันนี้ เรายิงประตูได้ดีแต่นอกเหนือจากนั้น อาเดรียน ต้องทำงานหนักมากๆ เขาเล่นได้สุดยอดเล่นสวนกลับได้ดีจนเราเสียประตู ชูร์วสบิวรี่ แสดงให้เราเห็นถึงระบบการเล่นในเกมส์นี้และเราเสียบอลกันบ่อยแต่เราแน่นอนว่าสมควรอย่างยิ่งสำหรับ ชูร์วสบิวรี่ และเขาสมควรที่จะชนะมากเหมือนกันในเกมส์นี้”
จากเกมส์นี้เราก็ได้เห็นแล้วว่านักเตะใหม่อย่าง มินามิโนะ ต้องใช้เวลาซักพักในการปรับตัวให้เข้าได้กับฟุตบอลอังกฤษให้ได้โดยเร็วเพื่อโอกาสลงเล่นตัวจริงให้ได้เพราะในเกมส์ เอฟเอ คัพ รอบนี้เจ้าตัวยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้เหมือนกับที่เล่นให้กับ ซัลซ์บวร์ก นอกจากนั้นแล้วดูเหมือนว่า คล็อปป์ จะต้องรีบปรับจูนฟอร์มของ มาติป และ ฟาบินโญ่ เพราะในเกมส์นี้สองนักเตะตัวหลักได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงหลังจากที่ได้รับอาการบาดเจ็บและหายจากสนามไปนาน แต่ในเกมส์นี้สองนักเตะทำผลงานได้น่าผิดหวังมากๆ โดยเฉพาะเรื่องความเร็ว ซึ่งนอนว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจากที่นักเตะห่างจากสนามไปนานแฟนลิเวอร์พูลคงเห็นกันเต็มสองตาว่า มาติป และมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียน เล่นแบบขาดความมั่นใจมากๆ ในครึ่งแรก โดย กองหลังชาวแคเมอรูน ยังดูเชื่องช้า, เคลียร์บอลไม่ขาด แถมยังเล่นไม่เข้าขากับ เดยัน ลอฟเรน มีบางครั้งที่ มาติป โดนแนวรุกเจ้าบ้านเล่นงาน โดยเฉพาะ วอลลี่ย์ ที่จัดการปั่นป่วน มาติป จนเปิดตำราตั้งรับไม่ถูก นอกจากนี้การที่นักเตะผ่านบอลได้แย่มากๆ ในครึ่งหลังทำให้ ชูร์วสบิวรี่ มีจังหวะการเล่นสวนกลับได้หลายครั้ง เดชะบุญที่นักเตะเจ้าบ้านขาดความคมไม่งั้น ลิเวอร์พูล อาจจะโบกมือลาถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลกมากกว่าที่จะได้ไปเล่นรีเพลย์ที่แอนฟิลด์ขณะที่ ฟาบิน โญ่ ต้องบอกเลยว่ายังไม่กลับมาเป็นนักเตะชั้นยอดคนเดิม เพราะการที่เขาเพิ่งจะหายเจ็บ ทำให้ยังขาดจังหวะการเล่น แถมผลงานในแมตช์นี้ต้องบอกเลยว่าเป็นรอง ชิริเบย่า ดาวรุ่งพุ่งแรงของทีม โดยในครึ่งแรก ดาวเตะเลือดแซมบ้า ทำบอลเสียในแดนกลางหลายครั้ง และบางจังหวะเกือบเสียประตูด้วยซ้ำ ทำให้คล็อปป์ต้องรีบแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อที่จะปรับจูนและสลับนักเตะมาใช้งานได้