แฟน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดือดบุกปาพลุไฟถึงหน้าบ้าน วู้ดเวิร์ด

แฟนบอลปีศาจแดงบุกปาพลุไฟถึงหน้าบ้าน เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองซีอีโอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองซีอีโอใหญ่ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนเหล่าแฟนบอลของปีศาจแดง บุกไปถึงที่บ้านพักพร้อมกับปาพลุไฟใส่หน้าประตูบ้าน เนื่องจากแฟนบอลไม่พอใจในการบริหารงานของ วู้ดเวิร์ด อย่างมากแต่ยังโชคดีที่ครอบครัวของเขาไม่ได้อยู่ในบ้านในช่วงที่แฟนบอลได้บุกไป โดยสโมสรได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการหากจับได้ว่าใครเป็นคนทำจะทำการดำเนินการแบนตลอดชีวิตและฟ้องร้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดโดยจะไม่มีการลดผ่อนใดๆ ทั้งสิ้น

สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกแถลงการณ์กลุ่มเหตุการที่มีกลุ่มแฟนบอล ปีศาจแดง ที่ใช้ชื่อว่า เดอะ เมน อิน แบล็ค (The Men in Black) บุกขว้างพลุไฟใส่บ้านพักของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร เพื่อเป็นการประท้วงตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของสโมสร เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยกลุ่มสาวง ผีแดง ประมาณ 20-30 คนซึ่งแต่งการมิดชิดเดินขบวนไปถึงที่บ้านพักสุดหรูของ วู้ดเวิร์ด ที่เชสเชียร์ ด้วยอารมณ์โกรธแค้ม โดยสมาชิกกลุ่มคนเหล่านั้นได้ขว้างปาพลุไฟใส่หน้าบ้านอย่างหนักจนเกิดเป็นเหตุการที่หนักมากๆ สำหรับ เอ็ด แต่ยังโชคดีที่ตอนนั้นครอบครัวของเขาไม่ได้อยู่ในบ้านพักแห่งนี้ไม่งั้นอาจจะเกิดเรื่องเลวร้ายมากไปกว่านี้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถลงการณ์ว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟุตบอล คลับ ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้ว เรารู้ว่าวงการฟุตบอลทั่วโลกจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อหนุนหลังเรา ในการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกรทเตอร์ แมนเชสเตอร์ เพื่อสืบหาผู้กระทำการในเรื่องนี้ซึ่งเป็นการโจมตีที่สโมสรยอมรับไม่ได้เพราะเต็มไปด้วยความรุนแรง ใครก็ตามที่กระทำความผิดนี้ จะได้รับความผิดทาง อาญาและผิดกฏหมายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จะโดนสโมสรสั่งแบนห้ามเข้าสนามตลอดชีวิต และอาจจะโดนฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดี แฟนบอลที่ได้แสดงความเห็นเป็นเพียงแค่เรื่องหนึ่งไม่ได้ร้ายแรง แต่การทำให้เสียทรัพย์นั้น และการตั้งใจที่จะหมายเอาชีวิตผู้อื่นเป็นเรื่องที่สโมสรไม่สามารถให้อภัยได้

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนดูเหมือนว่า เหล่าแฟนบอลกับ เอ็ด วู้ด เวิร์ด เริ่มจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และถ้าสโมสรยังไม่สามารถหาข้อยุติหรือแก้ไขปัญหานี้ได้อาจจะเกิดเหตุการที่ร้ายแรงไปมากกว่านี้ก็ได้ในอนาคต ตอนนี้ทางผู้บริหารสโมสรและเจ้าของทีมต้องเริ่มที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังก่อนที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะรุนแรงจนถึงขั้นเกิดจลาจลได้เพราะถ้าเลวร้ายถึงขั้นแบบนั้น ไม่ไช่เพียงแค่สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้รับความเสียหายแต่อาจจะส่งผลไปถึงเหล่าสโมสรในพรีเมียร์ลีกด้วยเพราะอาจจะต้องสั่งยุติการแข่งขั้นทั้งหมดลงและทีมที่จะเสียหายที่สุดคงจะเป็น ลิเวอร์พูล ที่กำลังจะคว้าแชมป์มาครองได้ในปีนี้ด้วย