จากใจ ฟาน ไดค์ ยก เมสซี่ รับมืออยากที่สุดตั้งแต่ที่เคยเจอมา
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ยกย่องให้ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะที่รับมือได้ยากที่สุดที่ตัวเองเคยเจอมา
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนเก่งของสโมสร ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยจากใจว่า ลิโอเนล เมสซี่ ยอมนักเตะของสโมสร บาร์เซโลน่า เป็นนักเตะที่รับมือได้ยากที่นับตั้งแต่ตัวเขาค้าแข้งมาซึ่งมันเป็นเรื่องที่กองหลังทุกคนต้องเจอถ้าหากได้เจอกับ เมสซี่ แต่ถ้าเป็นในด้านนักเตะที่ประกบยากที่สุดตัวเขายกให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ยอดกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเบอร์หนึ่งในด้านนี้
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากสำหรับยอดกองหลังระดับโลกอย่าง ฟาน ไดค์ ที่ได้ออกมายกย่อง 2 นักเตะชาวอาร์เจนติน่าอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ตัวเขายกย่องมากๆ ว่าเป็นนักเตะที่รับมือได้ยากที่สุดแล้วตั้งแต่ที่ตัวเขามาเป็นนักฟุตบอลอาชีพและก็ไม่แปลกใจที่นักเตะอย่าง เมสซี่ จะเป็นตำนานในอนาคต ฟาน ไดค์ กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องยอมรับว่านักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะที่รับมือได้ยากมากจริงๆ เพราะเขาว่องไวและมีทักษะที่สุดยอดผมมั่นใจว่ากองหลังทุกๆ คนที่เคยเจอกับ เมสซี่ มาแล้วก็น่าจะมีความรู้สึกเหมือนผมเขาสามารถสร้างฝันร้ายให้กับคุณได้ตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม แต่สำหรับผมแล้ว เมสซี่ ก็ไม่ไช่นักเตะที่ประกบได้ยากที่สุดเหมือนกันเพราะนักบรรดากองหน้าทุกคนที่ผมเคยเจอมาผมต้องยกให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ยอดกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องยอมรับว่าเขาเป็นกองหน้าที่เก่งมากจริงๆ เพราะเขาสามารถยิงประตูได้ทุกรูปแบบและหรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะเรามีโอกาสได้เจอกันบ่อยมากๆ ในเกมส์พรีเมียร์ลีกอังกฤษมันก็เลยอาจะเป็นเหตุผลที่ทำผมรู้สึกแบบนี้กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ก็ได้แต่ถ้าจะให้ผมยกย่องเพียงคนเดียวหรือคิดว่าใครเก่งว่ากันผมขอเดิมพันได้เลยว่าหลายๆ คนคงจะคิดหมือนผมเพราะยังไงผมก็ชอบ ลิโอเนล เมสซี่ มากกว่าอยู่แล้วแน่นอน
ฟาน ไดค์ พัฒนาฝีเท้าได้อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันเขาได้กลายมาเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกไปแล้วหลังจากที่เจ้าตัวได้ย้ายมาเล่นให้กับสโมสร ลิเวอร์พูล เมื่อซัมเมอร์ปี 2018 หลังจากที่ย้ายทีมมา ฟาน ไดค์ ก็มีโอกาสได้ดวลกับ เมสซี่ ในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศในปี 2018-2019 ซึ่งในนัดสองของรอบดังกล่าว ฟาน ไดค์ ก็มีส่วนทำให้เกมส์รุกของ บาร์เซโลน่า ที่นำโดย เมสซี่ โชว์ฟอร์มเก่งไม่ออกเหมือนกันและพาต้นสังกัดอย่าง ลิเวอร์พูล อัด บาร์เซโลน่า ผ่านเข้ารอบไปได้สำเร็จ